top of page

ประเภทการ Backup แบบต่างๆ



การป้องกันข้อมูลสูญหาย ข้อมูลเสียหาย ทั้งที่เกิดจากมนุษย์ หรือ ธรรมชาติ เป็นหนึ่งในหัวข้อที่จะต้องให้ความสำคัญในระบบ IT การ Backup ข้อมูล เป็นการป้องกันที่ถูกใช้มานานมาก ซึ่งได้พัฒนาหลากหลายวิธี

Backup Software ได้ถูกพัฒนาเพื่อการ Backup หรือสำรองข้อมูล ซึ่งมีประเภทของการ Backup หลายวิธีให้เลือกใช้ อาทิเช่น Full Backup (Basic) , Incremental Backup, Differential Backup หรือประเภทอื่นๆ อย่าง Synthetic full backup, Mirror Backup

ซึ่งแต่ละประเภทของการ Backup สามารถอธิบายคร่าวๆดังนี้


1. Full Backup

เป็นวิธีที่ Basic ที่สุด คือทำการ Backup ข้อมูลทั้งหมดลงในอุปกรณ์จัดเก็บ ซึ่งข้อดีคือตอน Restore สามารถนำเอา Storage ที่ Backup มาทำการ Restore ได้ทันที แต่ข้อเสียคือหากเราจะต้อง Backup ข้อมูลทั้งหมดลงใน Storage ทุกวันก็จะกินเนื้อที่จัดเก็บข้อมูลมากและใช้เวลาในการ Backup นานกว่าวิธีอื่นๆ


2. Incremental Backup

วิธีนี้จะทำการ Backup เฉพาะข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับข้อมูลที่ Backup ก่อนหน้าซึ่งวิธีนี้จะดู Time Stamp ของไฟล์ปัจจุบันเทียบกับ Time Stamp ของไฟล์ที่ Backup ไปก่อนหน้า ดังนั้นวิธีนี้จะทำ ให้ระยะเวลาในการ Backup สั้นและใช้เนื้อที่จัดเก็บใน Storage น้อยกว่า Full Backup เพราะจะ Backup เฉพาะไฟล์ที่เปลี่ยนแปลงหรือไฟล์ที่เกิดขึ้นมาใหม่เท่านั้น


3. Differential Backup

วิธีนี้จะเหมือนกับ Incremental Backup แต่จะ Backup เฉพาะไฟล์ที่เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเข้ามาใหม่เมื่อเทียบกับข้อมูลที่ทำการ Full Backup ก่อนหน้า วิธีนี้จะใช้ระยะเวลาในการ Backup และเนื้อที่จัดเก็บน้อยกว่าแบบ Full Backup แต่มากกว่า Incremental Backup

จากรูปจะเห็นว่า แบบ Full Backup จะ Backup ข้อมูลทั้งหมดทุกครั้งที่ Backup ส่วน Incremental Backup จะ Backup เฉพาะข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไปจาก การ Backup ครั้งที่แล้ว และ Differential Backup จะ Backup ข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไปจากการ Backup ครั้งแรก

จากวิธีทั้งสามแบบ ได้มีการพัฒนากรรมวิธีในการ Backup ข้อมูลออกมา 3 กรรมวิธี คือ


Full Daily


Full Weekly + Differential Dairy


Full Weekly + Incremental Daily


ซึ่งได้มีการสร้างรูปแบบการผสมผสานประเภทของการ Backup ข้อมูลเป็นรูปแบบต่างๆ โดยขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพ ระยะเวลา Level ของการป้องกันข้อมูล และเนื้อที่ในการจัดเก็บ เช่น หากเราต้องการ Backup ข้อมูล ขนาด 20 TB และมีอัตราการเปลี่ยนแปลงของข้อมูล 5% ต่อวัน และไม่มีการเพิ่มขึ้นของเนื้อที่จัดเก็บ โดยคำนวณที่ 22 วันทำการต่อเดือน จาก 3 กรรมวิธีข้างต้น ผลการ Backup จะเป็นดังรูป

จะเห็นว่าแบบ Full Daily จะเป็นการ Backup ทุกวัน ดังนั้นจะต้องใช้เนื้อที่ในการเก็บข้อมูล 440 TB แต่หากต้องการ Restore ก็จะใช้แค่ Backup ข้อมูลครั้งสุดท้ายมา Restore แบบนี้ การ Backup ในแต่ละวันจะใช้ระยะเวลานานกว่าแบบอื่นๆ

แบบ Full weekly + differential(week-days) เช่นเรา ทำ Full Backup ทุกวันจันทร์ ห้าจันทร์ จะมีข้อมูลที่ต้อง Full Backup เท่ากับ 20TB x 5 Mondays = 100 TB และวันที่เหลือทำ Differential Backup ทุกวัน เท่ากับ 20TB x 5%(เปลี่ยนแปลง 5%) x 22 Days = 22TB รวมแล้วใช้เนื้อที่ในการจัดเก็บข้อมูลทั้งหมด 122TB แต่หากต้องการ Restore จะใช้ Full Backup ล่าสุด + Differential Backup สุดท้ายเท่านั้น

แบบ Full weekly + Incremental(week-days) จะเหมือนกับวิธีที่สอง ในส่วน Full Backup แต่ใช้ Incremental Backup ทุกวันแทน ซึ่งเนื้อที่การจัดเก็บข้อมูลก็จะเท่ากันกับ วิธีที่สอง แต่เวลาต้องการ Restore จะใช้ Full Backup ล่าสุด + Incremental Backup ทุกๆ ชุดข้อมูล ถัดจาก Full Backup ล่าสุดจนถึงวันที่ต้องการจะ Restore ซึ่งการ Restore จะยุ่งยากกว่าแบบที่สอง


4. Mirror Backup

Mirror Backup จะคล้าย Full Backup คือจะมีการ copy ข้อมูลเก็บไว้หนึ่งชุดโดยไม่มีการทำเป็น Version ของการ Backup ดังนั้นข้อมูลที่เก็บจะเปลี่ยนแปลงตามข้อมูลปัจจุบัน ซึ่ง Mirror Backup มักจะใช้ในการ Backup ข้อมูลบางส่วนที่ต้องการ Backup Ffpเฉพาะ ข้อดีคือการ Restore ข้อมูลจะรวดเร็วมาก แต่ข้อเสียคือ ใช้เนื้อที่จัดเก็บเยอะและหากข้อมูลปัจจุบันมีการเสียหาย ก็จะทำให้ข้อมูลที่ Mirror เสียหายไปด้วย


5. Synthetic Full Backup

เป็นการผสมผสาน ระหว่าง Full Backup และ Incremental Backup เช่น เราต้องการ Backup ข้อมูลตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ โดยใช้ Synthetic Full Backup วันจันทร์จะทำการ Backup แบบ Full ส่วนวันอังคารถึงวันศุกร์จะ Backup แบบ Incremental จากนั้นจะทำการรวมข้อมูลที่ Backup ทั้งหมด ตั้งแต่วันจันทร์(ซึ่งเป็น Full Backup) และอังคารถึงศุกร์(Incremental Backup) มาสร้างเป็น Synthetic Full Backup จากนั้นก็จะเริ่มทำ Incremental Backup ต่อไป

แต่ละวิธี ก็จะมีข้อดีข้อเสียต่างๆกันไป เราจะต้องพิจารณา ถึง ความรวดเร็วในการ Backup/Restore เนื้อที่ในการจัดเก็บ ประสิทธิภาพด้วย


การ Backup ข้อมูลเป็นส่วนสำคัญที่ป้องกันข้อมูลของเราเอาไว้เพื่อกันความเสียหายของข้อมูลภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราได้ นอกจากการป้องกันความเสียหายข้อมูลในเครื่องแล้วการป้องกันข้อมูลจากทาง Cyber ก็สำคัญไม่ต่างกันอย่างการใช้ XDR หรือการใช้ Windows S Mode



บริการรับออกแบบและวางระบบเครือข่าย

สำหรับองค์กร สำนักงาน บริษัท

และการบริการหลังการขาย

โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจาก Techknowledge Consulting ที่มีประสบการณ์การทำงานมากกว่า 15 ปี

โทร 02-513-9415-6






ดู 2,571 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page