ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงการหาความต้องการของลูกค้าของเรา ว่าแท้จริงแล้วลูกค้านั้นมีความต้องการสิ่งใดจากเรากันแน่...
วิธีการหาความต้องการของลูกค้าคือการเก็บรวบรวมข้อมูอย่างหนึ่ง เป็นหน้าที่หนึ่งของนักการตลาดที่ต้องรวบรวมข้อมูลมาเพื่อวิเคราะห์หาความต้องการของผู้บริโภค เพื่อจะได้หากลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ต่อความต้องการ และเครื่องมือที่หลายคนคงจะรู้จักเป็นอย่างดีอย่าง Google Keyword ,Google Trend ,Social Listening เป็นต้น
แต่ในกรณีที่คุณมีลูกค้าอยู่แล้ว คุณเพียงแค่นำข้อมูลพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคมาวิเคราะห์เพื่อทำกิจกรรมส่งเสริมการขายก็จะสามารถสร้างยอดขายเป็นที่น่าพอใจได้ วิธีนี้คือการเก็บข้อมูลของลูกค้า
เราสามารถเก็บข้อมูลลูกค้าของเราผ่านระบบที่เรียกว่า “Member” เพื่อนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อ ทั้งจากสินค้าที่ซื้อบ่อย และความถี่ในการซื้อสินค้านั้น แต่การที่เราจะมีข้อมูลเราก็ต้องสร้างพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเสียก่อน การติดตั้งระบบเครือข่ายจัดเก็บข้อมูล(Storage networking) จะทำให้เราได้ประโยชน์สูงสุดจากข้อมูลที่ถูกเก็บเอาไว้ในระบบนี้ นอกจากจะเก็บข้อมูลแล้วยังสามารถสำรองข้อมูลได้อีกด้วย แน่นอนว่าถ้าเกิดปัญหาข้อมูลหายก็ไร้กังวลไปได้เลย และที่สำคัญคือไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนเราสามารถดึงข้อมูลมาใช้งานได้เลยทันที ราวกับทำงานเครื่องเดียวกัน สำหรับข้อมูลที่สำคัญต่างๆ ขององค์กรก็สามารถที่จะจัดเก็บไว้ในหลายๆ สถานที่ เพื่อป้องกันการล่มของระบบ ถ้าเซิร์ฟเวอร์หลักไม่สามารถทำงานได้ ก็จะมีเซิร์ฟเวอร์สำรองขึ้นมาทำงานแทน โดยทั่วไปแล้วข้อมูลสารสนเทศที่ถูกจัดเก็บในรูปแบบดิจิตอล จะมีอัตราเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในแต่ละปี และถึงแม้ว่าการลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในปีที่ผ่านมาจะลดลง แต่อัตราการลงทุนด้านระบบจัดเก็บข้อมูลกลับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เหตุผลหลักก็คือ การเพิ่มขึ้นของข้อมูลเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งบริษัทจำเป็นที่จะต้องเก็บรักษาข้อมูลเหล่านี้ไว้ เพื่อการดำเนินธุรกิจ
เราก็จะมีที่จัดเก็บข้อมูลของลูกค้าของเราแล้วนำมาวิเคราะห์หากลยุทธ์ที่เหมาะสมได้ และสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ ดั่งคำที่ว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ก็ชนะร้อยครั้ง คิดจะขายของให้ถูกจุดก็ควรจะศึกษาผู้บริโภคให้มาก ต้องการติดตั้งระบบเครือข่ายจัดเก็บข้อมูล(Storage networking) สิ่งที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ลูกค้า สามารถติดต่อเราได้ที่ โทร 02-513-9415-6 หรืออีเมล contact@techknowledge-th.com โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจาก Techknowledge Consultingที่มีประสบการณ์การทำงานมากกว่า 15 ปี